สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com

ระบบบริหารโรงแรม

ระบบบริหารโรงแรม

 

                จี,ช้อยและมาเค็นส์ ( Gee , choy and Makens ,  1984 : 219 - 220 ) ได้กล่าวไว้ว่า การจัดการและการดำเนินงานการโรงแรมสามารถทำได้ 4 วิธี คือ

1.       ระบบดำเนินการเอง ( Owner Operated System )

ในระบบนี้ผู้เป็นเจ้าของอาจจะเป็นคนๆเดียว ( Sole Own ) หรืออยู่ในรูปของบริษัท ก็ได้ ในประเทศไทยโรงแรมที่ใช้ระบบนี้คือ โรงแรมดุสิตธานี

                   ข้อดี

1.       มีอิสระในการดำเนินงาน ไม่ต้องอยู่ภายใต้อิทธิพลจากสิ่งภายนอก เจ้าองสามารถดำเนินการตามความพอใจของตนเอง

2.       เจ้าของจะเป็นผู้ทีได้รับกำไรทั้งหมด

3.       การตัดสินใจทำได้อย่างรวดเร็ว

                   ข้อเสีย

1.       ไม่สามารถขยายกิจการให้ใหญ่โตและได้ผลกำไรมากเหมอนอย่างกับการจัดการในระบบอื่นๆ ที่ใหญ่กว่า

2.       ผู้เป็นเจ้าของมีความเสี่ยงสูงในการขาดทุน เพราะกรตลาดไม่กว้างขวางเท่าที่ควร

2. ระบบการรับสิทธิ (  Franchise System )

                ระบบการรับสิทธิ หมายถึง เจ้าของโรงแรม  ได้รับสิทธิที่จะใช้ชื่อและเป็น

ส่วนหนึ่งของผู้ให้สิทธิ  ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงแรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยผู้รับสิทธิจะต้องใช้สัญลักษณ์ของโรงแรม และให้บริการด้วยมาตราฐานเดียวกับโรงแรมที่ให้สิทธิ และจะต้องจ่ายเงินให้กับโรงแรมที่ให้สิทธิเพือ่เป็นค่าบริการในเรื่องตลาด การบริหารงานและการจองห้องพัก

                ข้อดี

1.       สามารถใช้ระบบการจองห้องพักและระบบการตลาดร่วมกับโรงแรมที่ให้สิทธิได้

2.       มีสิทธิที่จะใช้ชื่อของโรงแรมที่ให้สิทธิ

3.       ได้รับความช่วยเหลือและดำเนินการจากโรงแรมที่ให้สิทธิ โดยการส่งผู้บริหารโรงแรมระดับสูง เช่น ผู้จัดการทั่วไป หรือผู้จัดการระดับรองลงมาจากโรงแรมที่ให้สิทธิ

4.       ประหยัดเงินในด้านการซื้อวัสดุที่จะใช้โดยทางโรงแรมผุ้ให้สิทธิอาจเป็นผู้จัดการให้ในบางกรณี

 

         ข้อเสีย

1.       ไม่สามารถที่จะดำเนินธุรกิจและควบคุมการทำงานของโรงแรมได้ทั้งหมดจะต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของโรงแรมผู้ให้สิทธิด้วย

2.       ผู้รับสิทธิจะต้องจ่ายเงินค่าธรรมเนียมในการซื้อสิทธิเมื่อแรกเข้า และจะต้องจ่ายเป็นรายปีแก่โรงแรมผู้ให้สิทธิ

3.       ถ้าโรงแรมผู้ให้สิทะล้มหรือเลิกกิจการก็จะทำให้โรงแรมผู้รับสิทธิได้รับผลกระทบไปด้วย

 

3. ระบบการทำสัญญาหรือจัดการ ( Management Contract )

                การดำเนินธุรกิจโรงแรมภายใต้ระบบนี้ เจ้าของโณงแรมจะว่าจ้างโรงแรมที่มีชื่อเสียงให้มาดำเนินการหรือจัดการให้ เจ้าของโรงแรเป็นเพียงผู้ลงทุน ( Investor ) การที่เจ้าของโรงแรมเลือกใช้ระบบนี้ เนื่องจากตนเองขาดประสบการณ์ และขาดความชำนาญในการดำเนินงาน เนื่องจากโรงแรมนั้น บริหารงานประสบผลสำเร็จมาแล้ว โรงแรมที่ใช้ระบบนี้ในประเทศไทยมีมากมายเช่น โรงแรมสีมาธานี โรงแรมพิษณุโลกธานี โรงแรมเจริญธานี ซึ่งว่าจ้างโรงแรมดุสิธานีเป็นผู้จัดการ ดำเนินการให้และใช้คำ ธานี ลงท้ายชื่อโรงแรม เพื่อให้ลูกคามั่นใจในระบบหรือมาตรฐานของโรงแรมตน

         ข้อดี

1.       มักจะทำสัญญากาจัดการกับโรงแรมหรือบริษัทที่มีชื่อเสียงในการด้านการจัดการเพื่อให้โรงแรมของตนมีชื่อเสียงตามไปด้วย

2.       ถ้าบริษัทที่ว่าจ้างให้มาจัดการเป็นบริษัทที่ใหญ่ก็จะทำให้การจองห้องพักอยู่ในลักษณะที่มีขอบข่ายโยงไปทั่วประเทศหรือทั่วโลกได้

3.       โรงแรมที่ว่าจ้างจะได้รับบริการจากนักบริหารมืออาชีพ

4.       เจ้าของโรงแรมไม่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องในการดำเนินการธุรกิจวันต่อวัน

         ข้อเสีย

 1.     ขาดความยืดหยุ่นในรูปแบบของการจัดการเนื่องจากอาจไม่สอดคล้องกับสภาพของท้องถิ่นที่โรงแรมตั้งอยู่

                    2.     อาจเกิดความขัดแย้งระหว่างผู้ลงทุนและผูดำเนินการเนื่องมาจากสื่อสารไม่ดีพอ

 3. ผู้ลงทุนขาดอำนาจในการบริหาร การตัดสินใจและการวางนโยบาย ซึ่งยากจะทำให้เกิดความขัดแย้งกันได้

                จะเห็นได้ว่า ระบบการบริหารโรงแรมและดำเนินการโรงแรมในปัจจุบันของไทย จะมีลักษณะที่เป็นระบบสากลกันเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากการท่องเที่ยวของไทยพัฒนาไปจนถึงขั้นเป็นนานาชาติแล้ว เพราะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยในปีหนึ่ง ๆ เป็นจำนวนมาก ดังนั้นโรงแรมทุกแห่งจึงนิยมให้มีการจัดการเป็นไปตามระบบมาตรฐานสากล เพื่อจะได้เป็นที่พอใจของนักท่องเที่ยวที่มาพักแรม

                4. การเข้าเป็นโรงแรมในเครือข่าย ( Chain Hotel System)

                เป็นการลงทุนระหว่างโรงแรมที่มีเครือข่ายกับโรงแรมที่ตั้งขึ้นใหม่  จะมีผู้จัดการของตนเอง โรงแรมแม่จะเป็นที่ปรึกษาและช่วยทางด้านการตลาด การประชาสัมพันธ์ และการสำรองห้องพักที่เป็นรูปแบบเดียวกันหมด ในประเทศไทยเป็นโรงแรมที่ใช้ระบบนี้ คือ โรงแรมแกรนด์เชอราตัน โรงแรมรอยัลอคิดเชอราตัน โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เป็นต้น

                ข้อดี

1.       เป็นที่รู้จักและคุ้นเคยของนักท่องเที่ยวเพราะจะอยู่ในหลายๆประเทศ

2.       มีการบริหารงานเหมือนกันกับโรงแรมที่มีอยู่ในเครือข่าย

3.       ช่องทางการจัดจำหน่ายจะกว้างขวาง เพราะสามารถซื้อขายได้จากประเทศของนักท่องเที่ยวเอง

4.       การตลาดไม่ยุ่งยาก เพราะมีโรงแรมเครือข่ายอยู่หลายแห่ง

         ข้อเสีย

1.       ขาดอิสระในการดำเนินงานของโรงแรมที่มีอยู่ในเครือข่าย

2.       จะต้องมีการปรับลักษณะและมาตราฐานของการบริการให้เข้ากับวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ

 

view